อัปเดต เทรนด์อาหารสุขภาพที่ #กำลังมาแรง

ในยุคที่ใครๆ ก็หันมาใส่ใจสุขภาพ เทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพกำลังได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลตัวเองให้แข็งแรงจากภายใน หรือเลือกกินอาหารที่ส่งเสริมความยั่งยืนให้กับโลก มาดูกันว่าเทรนด์อาหารสุขภาพในปีนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง!

1. อาหารจากพืช (Plant-based Foods)

เทรนด์อาหารจากพืชยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับคนที่หันมาเลือกรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมจากพืชแทนเนื้อสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นเบอร์เกอร์เนื้อจากพืช หรือผลิตภัณฑ์นมทางเลือกอย่างนมถั่วเหลือง นมอัลมอนด์ เทรนด์นี้ไม่เพียงแค่ดีต่อสุขภาพ แต่ยังช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย

2. อาหารคลีน แต่ครบสารอาหาร

อาหารคลีนในปัจจุบันเน้นไปที่ความสะอาดและความสมดุลของสารอาหารมากกว่าเดิม ไม่ได้หมายถึงการกินแบบจำกัดอาหารหรือควบคุมแคลอรีอย่างเข้มงวด แต่เน้นการกินอาหารที่ไม่ผ่านกระบวนการปรุงแต่งมาก และเน้นผัก ผลไม้สด เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน และธัญพืชเต็มเมล็ด ทำให้คนที่รักสุขภาพสามารถมีพลังงานและสารอาหารที่ครบถ้วนตลอดวัน

3. อาหารหมักเพื่อสุขภาพลำไส้ (Fermented Foods)

อาหารหมักเช่น กิมจิ โยเกิร์ต คอมบูชา กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น เพราะเต็มไปด้วยโปรไบโอติกส์ ซึ่งดีต่อระบบย่อยอาหารและลำไส้ ช่วยปรับสมดุลแบคทีเรียในร่างกายและเสริมภูมิคุ้มกัน เทรนด์นี้ยังสะท้อนถึงการสนใจเรื่องสุขภาพภายในร่างกาย ซึ่งมีผลต่อสุขภาพโดยรวมของเราอีกด้วย

4. ซูเปอร์ฟู้ด (Superfoods)

ซูเปอร์ฟู้ดยังคงเป็นที่นิยมในกลุ่มคนรักสุขภาพ ผลไม้และอาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเบอร์รี่ มะเขือเทศ และคีนัว ยังคงได้รับความนิยมเพราะมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย ช่วยลดการอักเสบ ป้องกันโรค และยังเสริมสร้างสุขภาพผิวให้เปล่งปลั่งอีกด้วย

5. อาหารจากธรรมชาติแบบ Local & Organic

คนเริ่มหันมาเลือกซื้ออาหารที่ปลอดสารเคมีและผลิตภายในท้องถิ่นมากขึ้น เพื่อลดการใช้สารเคมีในการผลิตและการขนส่งไกลๆ เทรนด์นี้ไม่เพียงแค่ช่วยให้เราได้รับอาหารที่สดและมีคุณภาพ แต่ยังสนับสนุนการทำเกษตรที่ยั่งยืนและรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน

6. อาหารปราศจากกลูเตน (Gluten-Free Foods)

สำหรับผู้ที่แพ้กลูเตนหรือมีอาการเซลิแอค อาหารที่ปราศจากกลูเตนยังคงเป็นทางเลือกที่ดี แต่ในปัจจุบันคนจำนวนมากเริ่มเลือกอาหารปราศจากกลูเตนเป็นทางเลือกเพื่อสุขภาพ เนื่องจากการเลี่ยงกลูเตนสามารถช่วยลดอาการไม่สบายท้อง และเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายได้

7. การควบคุมอาหารแบบยั่งยืน (Sustainable Eating)

นอกจากเรื่องของสุขภาพส่วนตัวแล้ว การรับประทานอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมก็เริ่มมีบทบาทมากขึ้น เช่น การลดปริมาณขยะจากบรรจุภัณฑ์ เลือกใช้วัตถุดิบจากแหล่งที่มีการผลิตอย่างยั่งยืน รวมถึงการสนับสนุนสินค้าท้องถิ่น เพื่อสร้างระบบการผลิตที่เป็นมิตรต่อโลก

8. การทำอาหารด้วยตัวเอง

ด้วยสถานการณ์การระบาดของโรคในช่วงที่ผ่านมา ทำให้หลายคนหันมาทำอาหารเองที่บ้านมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำขนมเพื่อสุขภาพ หรือการปรุงอาหารตามสูตรคลีนแบบง่ายๆ ทำให้เราสามารถควบคุมส่วนผสมและสารอาหารได้อย่างที่ต้องการ แถมยังสนุกกับการทำอาหารด้วยตัวเอง

เคล็ดลับการรับประทานอาหารสุขภาพ

• ทานผักผลไม้ให้หลากหลาย เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน
• เลือกโปรตีนจากพืช เช่น ถั่ว ถั่วเหลือง เต้าหู้
• ลดการบริโภคน้ำตาลและไขมันทรานส์ หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปและอาหารทอด
• ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ ช่วยให้ร่างกายสดชื่นและขับของเสีย
• ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและเผาผลาญพลังงาน

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและความพยายาม แต่หากเราเริ่มต้นจากการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ เช่น การเพิ่มผักผลไม้ในมื้ออาหาร หรือการลดปริมาณอาหารที่ปรุงรสจัด ก็จะช่วยให้เราสามารถมีสุขภาพที่ดีได้ในระยะยาวค่ะ